เปลี่ยนจากสิ่งที่คิดหมกมุ่นอยู่ในใจ ให้กลายเป็นงานที่ชอบ กับงานออกแบบและสร้างบ้าน

ยังคงจำได้เป็นภาพชัดเจน ตอนที่ผมยังเป็นเด็กเล็กๆ 
เวลาที่หม่าม้าไปเที่ยวบ้านคนรู้จัก แน่นอนว่า มีผมติดไปด้วย
หลังจากที่มีการแนะนำตัวกันเล็กน้อย แล้วผู้ใหญ่ก็เข้าสู่โหมดคุยกัน
เด็กๆทั่วไป  ก็คงไม่รู้จะทำอะไร แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมเท่าไหร่



















เพราะผมก็จะมองรอบๆ มองขึ้นเพดาน มองนู่นนี่นั่น ตลอดเวลา
จนเพื่อนๆแม่สังเกตเห็นหลายๆครั้ง ในเวลาที่ไป
แน่นอนว่า ผมถูกทัก ว่าเป็นเด็กที่แปลก เพราะไม่ค่อยคุย
แถมยังเอาแต่มองขึ้นมองลง ขาดสังคมว่างั้น รึไม่ก็มีปัญหาทางสมอง
เท่าที่เค้าพอจะนึกคำพูดออก

แน่นอนว่าแม่ผมก็พลอยรู้สึกไปด้วย ก็ตำหนิผมไปหลายที
ว่าทำใมทำท่าทางแปลกๆแบบนั้น ทำให้มัน "เหมือนคนอื่น" หน่อยไม่ได้รึไง

เอาจริงๆเนี่ย ที่ผมมองสิ่งรอบตัวตลอดเวลา
อันนึงคือผมก็ไม่รู้จะคุยกับใครนะ ถ้าเป็นเด็กด้วยกันก็ว่าไปอย่าง
และก็เป็นจากนิสัยชอบสังเกตด้วย
ผมมักจะมองแต่ละอย่าง และก็คิดๆถามๆ ว่าอะไร ทำใม อยู่แบบนี้
แน่นอนว่า มีแแอบแว่บไปมองจิ้งจก ตุ๊กแก อื่นๆตามประสา :)

**อันเนี้ย ถ้าเกิดมีใครที่ได้มีโอกาสมาอ่านบทความที่ผมทำไว้
และมีเด็กๆในบ้าน หรือลูกหลานตัวเอง เป็นคล้ายๆผม 
ก็อย่าไปตีตราเค้านะ ว่าเค้าแปลก ประหลาด ปัญญาอ่อน ฯลฯ
อย่างที่คนทั่วไปติดปากกัน เพียงเพราะเราไม่เข้าใจธรรมชาติเด็ก
หรือธรรมชาติของการเรียนรู้เพียงเท่านั้น 

รับเหมาก่อสร้างเชียงใหม่



















ก็ไอ้นิสัยชอบสังเกตนู่นี่นั่น นี่แหละ ที่ตอนหลังผมรู้เสียทีว่า 
มันคืออะไร เอาไว้สร้างประโยชน์อะไร
เพราะตอนโตขึ้นมา จากนิสัยชอบสังเกต ตั้งคำถาม
และก็ชอบอ่านหนังสืออย่างมาก 
เรียกว่า มีอะไรให้อ่านก็อ่าน หลายๆรอบ 
โดยเฉพาะการ์ตูน แหะๆๆ ซึ่งนิตยสารเกี่ยวกับบ้านสวยๆ
นี่ก็ไม่รอดสายตา ที่บ้านก็มีอยู่เป็นกองๆ จนแทบไม่มีที่เก็บ

อ่านไป ก็จินตนาการไป ถึงบ้านว่า เวลาเรามีบ้านของเรา
มันก็คงจะหน้าตาแบบนั้น แบบนี้ 

แต่เวลาที่เราจดจำ ภาพบ้าน ที่ดูเหมือนจะน่าอยู่ในหนังสือบ้านนั้น
พอเวลาที่ผมไปตามที่ต่างๆ บ้านคนรู้จัก บ้านเพื่อน
กลับรู้สึกขัดแย้ง ในความรู้สึกตัวเองมาก
และมีคำถามโผล่มาในความคิดตลอดเวลาเลย 
ว่า "ทำใม" บ้านจริงๆ ที่เราเห็นกันทั่วไปเนี่ย

มันถึงทั้งแปลก และประหลาด แบบนี้ 
มันขัดแย้งกับวิธีใช้ชีวิตของคนเราเป็นอย่างมาก

ความประหลาดนั้น มีให้เหตุตั้งแต่หน้าบ้านยันหลังบ้าน

อย่างบางคนนะครับ ที่ดินใหญ่มาก
แต่พอสร้างบ้าน ก็เหมือนจะกลัว ตัวบ้านจะไปกินที่
รึเหตุผลใด ก็ไม่ทราบได้ บันไดตัวบ้านนั้น แทนที่จะยืดระยะออกมา
เพื่อให้ใช้งานได้สบายเข่า แต่ก็กลายเป็นชันจนขึ้นแทบไม่ไหว
เมื่อสร้างเสร็จ อยู่ไป มันใช้งานไม่สะดวก
สุดท้ายก็ไม่มีใครใช้ ก็ย้ายชีวิตมาอยู่ชั้นล่างกันหมด

รึห้องน้ำ ทำใมต้องมืด อับ ทึบ ชื้น พื้นเปียกลื่น
เวลาผมเข้าห้องน้ำทีนะ เท้าจิกเกร็ง คือมันลื่นจริงๆ
ขนาดว่าเราเป็นเด็ก ความคล่องตัวสูง ยังไม่ชอบเลย
ไม่อยากไปนึกถึงเวลาเด็กเล็กๆ หรือใครก็แล้วแต่
ล้มหัวฟาดไปในห้องน้ำ เนี่ย บรื๋อๆ

ใหนจะได้ยินข่าวว่ามีคนล้ม คนเจ็บ หรือตาย
เพราะมีสาเหตุมาจากสภาพห้องน้ำอย่างที่เราเห็นจนชินตา
ก็ยิ่งไม่ชอบห้องน้ำของทุกบ้านเอาเสียเลย

ไม่ต้องใกล เอาบ้านผมเอง ที่อยู่มาตอนเด็กๆเนี่ย
ห้องน้ำเข้าไปปุ้ป เจอฝักบัวก่อน
อาาาาา ซี้เลี้ยวว โซนเปียกมาก่อน
โซนแห้งอยู่ถัดไป 
ความ_บหาย ก็บังเกิด 
ห้องน้ำมันก็เละทั้งห้อง 

พอถามพ่อไป คำตอบก็คาดได้ไม่ยากนะ
ประมาณว่า ห้องน้ำที่ไหน มันก็แบบนี้แหละ(วะ)
ถ้าถามต่อ แน่นอน หลังมือตามมาแทนคำตอบ

ใหนจะห้องน้ำที่เอาไปยัดไว้ใต้บันได นี่ยิ่งแย่ไปใหญ่
ซึ่งเจอแทบจะ 99% ได้เลยในบ้านทุกแบบเลย ทั้งบ้านเดี่ยว 
ตึกแถว หรือทาว์นโฮม ที่เก๋ไปกว่านั้นอีกก็คือ 
ตรงข้ามห้องน้ำที่อยู่ใต้บันไดนั้น
ถูกวางตำแหน่งตามผังบ้าน ให้เป็นที่กินข้าวด้วย wtf !!

บ้านที่วางผังที่ทานข้าวกับห้องน้ำไว้ด้วยกัน
















อิ่มม... คือให้นั่งกินข้าว พร้อมกับสูดกลิ่นห้องน้ำไปด้วย
ยิ่งถ้ามีคนเพิ่งเข้าห้องน้ำเสร็จ ณ ตอนนั้นเนี่ย
มันสดมากเลยน่ะ สดตั้งแต่เสียงซาว์ดแทร็กแล้ว
เอออ  นึกอารมณ์ ประมาณ โรงหนัง 4dx นี่ละมั้ง 
มาครบ ทั้งรส กลิ่น เสียง 


โอยย มีอีกเยอะเลย ไว้ไปเขียนบรรยายต่อทีหลัง
เดี๋ยวจะอ๊วกซะก่อน 

คืองงว่า บ้านทั้งหลัง มันไม่มีที่ให้ทำแปลนเหมาะๆ
สำหรับให้กินข้าวแล้วรึยังไง 
วางผังไปมันตรงหน้าห้องน้ำนั่นแหละ 

คนออกแบบหรือสถาปนิคเค้าคิดอะไรอยู่
แต่อย่างว่าแหละ บ้านหลังนี้ เค้าไม่ได้อยู่เอง
มันไม่ใช่ปัญหาของเค้านะ 

แต่ความประหลาดที่น่าทึ่งอีกอย่างก็คือ เจ้าของบ้านมากกว่า

พอเราได้ข่าว หรือเห็นว่า กำลังมีคนสร้างบ้านหลังใหม่ขึ้นมา
ตัดภาพไปตอนที่บ้านสร้างเสร็จแล้ว
กลายเป็นว่า บ้านหลังใหม่ของคนอื่น กับบ้านหลังเก่าของอีกคน
กลับกลายเป็นบ้านฝาแฝดไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ
บันไดแย่ยังไง ห้องน้ำเลวร้ายแค่ใหน 
ก็ออกมาแบบเดิมเปี้ยบบ 

เฮ้ยยย ไรวะ มหัศจรรย์มนุษย์

เรียกว่าก้อปปี้ตามๆกันมา แทบจะทุกกระเบียดนิ้ว
แน่นอนว่า ถ้าบ้านหลังต้นแบบมีปัญหาอะไร
บ้านหลังใหม่ ที่สร้างเลียนแบบ มันก็มีปัญหาอย่างเดียวกันแหละ 

อีกคำถามหนึ่งที่มันยิ่งทำให้ผมคิดมาก พยายามหาคำตอบต่อก็คือ
คนเราเสียเงินสร้างบ้านนี่หว่า บ้านไม่ได้มาแบบฟรีๆ
แต่ทำใมเราถึงเหมือนจ่ายเงินซื้อปัญหามาซะอย่างนั้น
เอออ คิดแล้วก็ประหลาดดีแท้เนาะ คนเรา

ใครอ่านถึงตรงนี้ อย่าหัวเราะไปนะ เหอๆ
เพราะถึงตอนนี้ จะเป็นปี 2022 แล้วเนี่ย 
ลองไปไล่ดูแปลนบ้านที่เค้าขายๆกันตามเน็ทเถอะ
เป็นอย่างที่ผมว่า เป๊ะ

นี่ละครับ ที่มาที่ไปแบบคร่าวๆ
เรื่องราว สารตั้งต้น ที่ส่งผลให้วันนึง 
ผมก็ก้าวเท้าเข้ามาสู่โลกของการออกแบบและสร้างบ้านจนได้

แน่นอนว่า การลงมือวางแผนออกแบบและสร้างบ้านซักหลัง
เราไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว
ยิ่งเป็นการออกแบบบ้านและสร้างมันขึ้นมา 
ตามภาพที่ผมคิดไว้ ว่ามันควรจะเป็นอย่างไรแล้ว
ก็ยิ่งจำเป็นต้องมี ทีมงานออกแบบและทีมกอสร้างที่เป็นเหมือนเพื่อนที่เข้าใจกัน 
เป็นพวกมีแรงบันดาลใจ ความบ้าๆบอๆ พอๆกัน
ถึงจะผลักดันความฝันเรื่อง การสร้างบ้านที่น่าอยู่จริงๆ ให้ไปข้างหน้าได้

การมีทีม ที่เชื่อมือได้เนี่ย สำคัญ

ก็กว่าจะลงตัว ต้องผ่านเหตุการณ์ เรื่องราวอะไรมาหลายอย่างเลย
ทุกวันนี้ ในเวลาว่างๆ ผมก็เป็นต้องหยิบกระดาษ หยิบไอแพดขึ้นมา
เขียนๆวาดๆ ไอเดียต่างๆ ที่สมองผมจะแว่บขึ้นมาได้
แล้วก็เอาไปนั้่งคุยกับสถาปนิค เพื่อพัฒนาต่อยอด 
ให้เป็นแปลนบ้าน ที่มีพัฒนาการไปข้างหน้า

เพราะในใจผมก็ยังคงมีเป้าหมายหนึ่งเดียวสำหรับคนออกแบบและสร้างบ้านก็คือ
ในเมื่อเราต้องเสียเงินเก็บก้อนใหญ่ที่สุดในชีวิต
ไปสร้างบ้านกันแล้ว แบบบ้าน หรือบ้านจริงๆที่สร้างออกมา
มันต้องเป็นคำตอบสุดท้าย หรือคุณภาพชีวิตจริงๆ
ให้กับเจ้าของบ้านทุกๆคน ที่ให้ผมช่วยดูแล

ถึงจะมีเจ้าของบ้านหลายท่าน งงๆ เกาหัวแกรกๆ 
ว่าผมกำลังทำอะไรแปลกๆ กับบ้านของเค้ารึเปล่า
ทำไมโรงรถเป็นอย่างนี้ ห้องน้ำทำไมไม่เหมือนคนอื่น ห้องครัวฯลฯ

เพราะแน่นอนว่า ธรรมชาติของมนุษย์อันนึง ก็คือ การเกาะอะไรเดิมๆไว้
มันอุ่นใจกว่า ถึงจะเป็นหายนะก็เถอะ การเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ๆ
เป็นเรื่องที่ยากมากที่สุดเรื่องหนึ่งของมนุษย์ชาติกันเลย

สุดท้ายพอบ้านจริงเสร็จออกมา ทุกอย่างก็กลายเป็นที่พึงพอใจ
เพราะการเห็นภาพเสมือนจริงในหัวเนี่ย มันอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ลำบาก
เอาเป็นว่า ผลลัพธ์สุดท้าย คือความพึงพอใจ 
เท่านี้เป้าหมายของผมก็ค่อยๆบรรลุไปทีละนิดละหน่อยแล้วละครับ 


ตี๋ ณัฐวัฒน์ 

#รับเหมาก่อสร้าง
#ออกแบบบ้าน
#สร้างบ้านเชียงใหม่
#trueuniversaldesign
#บ้านฟังก์ชั่นคุณภาพ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น